วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

รักษาสิวด้วยมะเขือเทศ

รักษาสิวด้วยมะเขือเทศ


  การรักษาสิวด้วยวิธีที่ใช้ส่วนผสมแบบธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกันหลากหลายอย่างให้เราเลือกปฏิบัติ “มะเขือเทศ” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเห็นผลจริง ที่สำคัญปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง ทั้งยังเป็นวิธีการที่แสนง่ายสามารถทำเองที่บ้านได้ โดยไม่ต้องออกไปคลินิคให้เสียทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า
            ในมะเขือเทศมีสารชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังมีความอุดมไปด้วยวิตามินซี และวิตามินเอ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ที่สามารถช่วยรักษาสิวได้อย่างดี และสำหรับสูตรที่จะใช้มะเขือเทศ รักษาสิว สามารถเลือกทำได้หลายรูปแบบ ดังนี้


1.มาร์คหน้าด้วยมะเขือเทศและโยเกิร์ต
            ส่วนผสมได้แก่ มะเขือเทศครึ่งลูกใหญ่ และโยเกิร์ตธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำง่ายๆก็คือ นำมะเขือเทศสดที่ได้ผ่านการล้างให้สะอาดแล้วมาบด ขยี้ให้ละเอียด แล้วนำโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะใส่ผสมกับมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ขยำส่วนผสมทั้งสองให้เข้ากัน จากนั้นนำมาทาหน้าให้ทั่วหน้าเว้นบริเวณรอบดวงตากับจมูกไว้ เหมือนกับการมาร์คหน้าทั่วๆไป ตรงไหนมีสิวหรือจุดด่างดำหรือหลุมสิวก็พอกไปหนาๆ ทิ้้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วก็ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดหรือโฟมล้างหน้าตามปกติ หลังจากทำแล้วจะรู้สึกว่าใบหน้าสะอาด และนุ่มชุ่มชื้นดี
            โดยควรทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ใบหน้าจะดูขาวสดใส มีชีวิตชีวามากขึ้น เนื่องจากตัวมะเขือเทศเองจะช่วยผลัดเซล์ผิวที่ตายออกไป เรียกได้ว่าเป็นการทำ AHA แบบธรรมชาติ ส่วนตัวโยเกิร์ตจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าทำให้หน้ามีน้ำมีนวล และช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ดี


2.กระชับรูขุมขนด้วยมะเขือเทศและแตงกวา
            ใช้เป็นสูตรกระชับรูขุมขนแบบเย็นและอ่อนโยน โดยคั้นให้ได้น้ำมะเขือเทศสดพร้อมดื่ม หั่นแตงกวาบางๆ แล้วบีบให้ได้น้ำแตงกวาลงไปในน้ำมะเขือเทศ จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วใช้สำลีทาให้ทั่วใบหน้า สักครู่ล้างออกด้วยน้ำอุ่น โดยควรทำวันละ 1 ครั้งจะเห็นผล รูขุมขนที่กว้างจะเล็กลง ดูกระชับขึ้นด้วยคุณประโยชน์ที่ได้จากแตงกวานั่นเอง ซึ่งหากรูขุมขนเล็ก จะเป็นการป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่ผิวได้ง่าย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสิวต่างๆ ทั้งยังดูหน้าเนียนใสแบบธรรมชาติอีกด้วย

3.ลดความมันของใบหน้าด้วยมะเขือเทศ
            สูตรมะเขือเทศ รักษาสิวนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ามัน ซึ่งทำให้เกิดสิวได้ง่าย โดยให้เตรียมมะเขือเทศเอาไว้ครึ่งลูก แล้วให้นำไปทาให้ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวทั้งหมด เมื่อทาเสร็จแล้วก็ให้ทำการล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็เช็ดใบหน้าเบาๆให้แห้ง แค่นี้ก็ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ง่ายๆอีกวิธีหนึ่ง


4.มาร์คหน้าด้วยมะเขือเทศและอะโวคาโด้
            มีขั้นตอนง่ายๆ เพียงเตรียมผลมะเขือเทศและผลอะโวคาโด้ แล้วทำการบดเข้าด้วยกัน โดยบดให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที จึงล้างหน้าออกด้วยน้ำอุ่น หรือจะใช้น้ำธรรมดาก็ได้ เมื่อล้างเสร็จก็ให้เช็ดหน้าเบาๆจนแห้ง แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับการมาร์คหน้าด้วยมะเขือเทศและอะโวคาโด้ โดยเป็นวิธีแสนง่ายที่ช่วยให้ใบหน้าของเราเนียนใสไร้สิวแบบที่ทุกคนปราถนา
            ทั้ง 4 สูตรมะเขือเทศ รักษาสิว ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเห็นผลจริง แม้จะไม่ทันใจเท่าวิธีการสมัยใหม่อย่างเช่น การทำเลเซอร์สิว แต่รับรองว่าในระยะยาววิธีแบบธรรมชาติย่อมดีกว่า เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่ตามมา อย่างไรก็ดี หากจะให้มะเขือเทศ รักษาสิวได้ผลชัดขึ้น ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดื่มน้ำให้มากๆวันละ  8-10 แก้ว ที่สำคัญพยายามรักษาผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ ออกห่างมลภาวะต่างๆ โดยเฉพาะควันพิษจากท่อไอเสียในอากาศ ที่เป็นตัวกาสำคัญให้ผิวหน้าเกิดสิวได้ง่าย

แต่หากไม่มีเวลาในการรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ ก็ลองใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีคุณภาพอย่าง Skin Pearl ดูสิคะ ซึ่งสามารถทำให้ผิวหน้าห่างไกลจากสิว แล้วยังเป็นการรักษาสิวที่หายถาวร อีกอย่างเรื่องรอยดำ รอยแดงจากสิว Skin Pearl ก็สามารถช่วยได้อย่างดี เลยเชียวนะ

 


วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

มังคุดรักษาสิว

มังคุดรักษาสิว

ราชินีผลไม้อย่างมังคุดเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 76% ดังนั้นเมื่อเรารับประทานมังคุดเข้าไปจึงช่วยในเรื่องลดการอักเสบของผิวหน้าได้ด้วย เคยมีวิจัยจำนวนมากที่ใช้สารสกัดจากมังคุดมาช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง และในประสบการณ์ส่วนตัว ก็พิสูจน์มาแล้วด้วยญาติสนิทที่เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย แล้วใช้สารสกัดจากมังคุดในการรักษามะเร็งแล้วหายขาด  นี่คือคุณสมบัติของมังคุดเบื้องต้น แต่มีนักวิจัยได้นำสารสกัดจากมังคุดมาใช้ในเรื่องของความงามโดยใช้ผลิตโฟมล้างหน้าด้วย มาดูกันว่า มังคุดจะมีคุณสมบัติอะไร บ้าง

1  1.     มังคุดจะช่วยให้ผิวพรรณมีความมันลดน้อยลง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า และลดการแห้งตรึงของผิวหน้า
2  2.     เนื่องจากสารสกัดจากมังคุดเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่คนที่มีผิวแพ้ง่าย
3  3.  ปรับสมดุลของผิวหน้าให้มีความยืดหยุ่นได้ดี คล้ายกับการทำงานของคอลาเจน
 .   4.เมื่อใช้โฟมล้างหน้าที่สกัดจากมังคุด ใช้ควบคู่กับครีมรักษาสิว ของ Skin Pearl ยิ่งทำให้ลดการอักเสบของผิวหน้าและทำให้สิวแห้งได้เร็วยิ่งขึ้น
5   5.   ลดการอักเสบของผิวหน้าและลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ดังนั้นเมื่อสิวหายแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีกครั้ง

วิธีการใช้โฟมมังคุด และวิธีการล้างหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบของผิวหน้า
           1.การล้างหน้าบ่อยๆ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง จึงทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และควรหลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้า สิวที่รุนแรงจนเกินไป โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า
           2.หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ เช่น การใช้เครื่องสำอาง หรือครีมกันแดดที่เพิ่มความมันบนใบหน้า รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการนวดและขัดหน้าด้วย
           3.ห้ามนอกดึกเด็ดขาด เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดสิว
           4.ก่อนเข้านอนไม่ควรทาครีมใดๆ ควรล้างหน้า เช็ดให้แห้ง แล้วเข้านอนทันที
           5.เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรงๆ เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบและเป็นหนองเพิ่มขึ้นได้
           6.ควรสระผมบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ผมมันและลงมายังใบหน้าของเรา พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันใส่ผมหรือเจลแต่งผม
           7.อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้ากดทับบริเวณที่สิวอักเสบ เพราะยิ่งทำให้เกิดหนองเพิ่มขึ้น
           8.อย่าใช้มือบีบ แกะ เกาบริเวณที่เป็นสิว
           9.อย่าเครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อทำจิตใจให้แจ่มใส
          10.ถ้าในกรณีที่สิวเป็นหัวหนองขนาดใหญ่หลายๆเม็ด หรือมีอาการอักเสบมาก ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะได้ไม่เกิดแผลเป็นจากสิว
          หากทำตามข้อปฏิบัติข้างนี้เป็นประจำจะทำให้สิวอักเสบค่อยๆลดลงได้ ทั้งนี้ ผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางที่ดีควรใช้ผลิตภัณท์ดูแลผิวที่อ่อนโยนติดต่อกัน อย่างเช่นโฟมล้างหน้า สิวอักเสบที่ผลิตจากมังคุด และไม่ควรเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆ
          อย่างไรก็ดี หลังจากรักษาสิวอักเสบให้หายเป็นปกติแล้ว ควรทำการป้องกันอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นสิวได้อีก เพราะการเกิดสิวอักเสบมีปัจจัยมาจากทั้งภายในและภายนอก ทั้งความเครียด การอดหลับอดนอน ภาวะการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน และแบคทีเรียในบรรยากาศรอบตัวเรา ดังนั้น อย่าลืมดูแลความสะอาดผิวบนใบหน้า และพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการใช้โฟมล้างหน้า สิวอักเสบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันในระยะยาว ที่สำคัญต้องเลือกครีมรักษาสิวที่มีคุณภาพ
 



วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

เพิ่มอายุให้ยืนยาว ด้วยตัวท่านเอง

เพิ่มอายุให้ยืนยาว ด้วยตัวท่านเอง

วันนี้ Skin Pearl จะมาบอกเล่าวิธีที่ทำให้อายุยืนยาวขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ทุกคนก็อยากจะมีสุขภาพแข็งแรง และมีอายุยืนยาว แต่มีกี่คนกันเล่าที่สามารถทำได้ และเขาเหล่านั้นมีวิธีปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง  เพราะเมื่อสุขภาพแข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ ย่อมทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ ตามมา  ดังนั้นคนที่ไม่ดูแลสุขภาพของตนเองต่อให้ร่ำรวยมหาศาล ก็ไม่มีประโยชน์เพราะในวันที่ป่วยขึ้นมา หรือเป็นโรคร้ายแรงแล้วล่ะก็ มีเงินทองมากมายมารักษา ก็ไม่สามารถจะซื้อสุขภาพที่สมบรูณ์แข็งแรงได้ ดังนั้นเรามาเริ่มปฏิบัติตัว เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงกันเถอะ

 1. เดินให้เร็วขึ้น วันละ 30 - 40 นาที ก็จะทำให้ท่านสามารถมีอายุยืนขึ้น อีก 3 ปี เลยเชียวนะ

 2.  เคลื่อนไหวร่างกาย บ่อย อย่างน้อย ๆ ก็ทุก ชั่วโมง เพราะเมื่อร่างกายขยับก็เท่ากับว่าเราได้ออกกำลังกายไปในตัว วิธีนี้จะยืดอายุเราออกไปได้ 5.6 ปี
    

 3. นอนให้เร็วขึ้น นอนก่อน 4 ทุ่ม และนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงก็จะทำให้คุณมีอายุยืนขึ้น อีก 3 ปีเลยล่ะ
    


 4.  กินอาหารที่มาจากธรรมชาติ ปลอดสารพิษ การที่เรากินอาหารที่ดี ไม่มีสารพิษตกค้างในร่างกายนั้น มันทำให้อายุเรายืน ได้ ตั้ง 14 ปี เชียวนะ 

5.  นั่งสมาธิ ยืดอายุออกไปได้ 4 ปี เพราะสมาธิจะช่วยให้คุณลดความเครียดได้ดี เมื่อจิตใจแจ่มใส สุขภาพกายก็ดีไปด้วย อย่างที่เขาว่ากัน จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

6. เลิกบุหรี่เลิกเหล้า สิ่งเหล่านี้มันไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน เพราะเป็นที่มาของโรคต่าง ๆ ที่จะมีผลเสียต่อร่างกาย ถ้าเราเลิกได้ ก็จะมีอายุยืนขึ้นไปอีก 6 ปีเลย

  ที่เล่ามาทั้งหมดหากท่านปฏิบัติได้ ก็จะทำให้ชีวิตยืนยาวออกไปได้เยอะเลยนะ เริ่มต้นสิ่งดี ๆ กับปีใหม่กันเลยดีกว่า อย่ารอให้สุขภาพแย่แล้วค่อยมารักษาทีหลังมันจะไม่คุ้ม ด้วยความปราถนาดี จาก Skin Pearl



วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คนเป็นสิว อยากรักษาสิว ให้หายขาดต้องอ่าน!

คนเป็นสิว อยากรักษาสิว ให้หายขาดต้องอ่าน!

ในปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้า วิทยาการ การรักษาสิวก็มีมากมายหลายแบบ บางคนก็ปรึกษาแพทย์ที่รักษาสิวโดยตรง แต่บางคนก็เลือกที่จะศึกษาหาความรู้การรักษาสิวด้วยตัวเอง  ซึ่งบางท่านก็ขอความรู้จากกูรูทั้งหลายในการรักษาสิว ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย บางรายก็บอกว่ายี่ห้อนี้ดี บางท่านก็บอกยี่ห้อนี้ดีกว่า ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะบางคนอาจจะมีผิวหน้าที่ถูกกับครีมบางยี่ห้อนั้น แต่บางท่านก็เลือกวิธีการรักษาสิวโดยธรรมชาติ โดยการใช้สมุนไพรก็มี หรือบางคนก็เริ่มต้นจากการรักษาสิวด้วยตนเอง
วันนี้ Skin Pearl ก็ได้รวบรวมวิธีการรักษาสิวที่กูรูท่านต่าง ๆ ที่มีคนยอมรับกันมาก ว่าหายแน่นอนหากปฏิบัติตามวิธีดูแลผิวหน้าตามวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

การป้องกันสิวด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่ยาก เพียงแค่มีวินัย ลองดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
ไม่ว่าจะชายหนุ่ม หรือหญิงสาวก็คงไม่ปราถนาที่จะมีสิวบนใบหน้า อ้าวมาดูกันเลยต้องป้องกันสิวและรักษาสิวยังไงกันบ้าง


1. อย่าคิดว่าการแต่งหน้า เพียงแค่น้ำเปล่าก็เพียงพอต่อการล้างหน้า เพราะว่าเครื่องสำอางค์ที่ตกค้างบนใบหน้านั้น เป็นสาเหตุหลักเลยที่ก่อให้เกิดสิวได้ เนื่องจากมีสารเคมีตกค้างตากเครื่องสำอางค์ที่มีอยู่ในเครื่องสำอางค์
2. สำหรับคนที่ทำงานหนักเหนื่อย แล้วขี้เกียจล้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นก่อนนอน หรือ หลังตื่นนอน แน่นอน ใบหน้าที่สกปรกเป็นต้นเหตุการเกิดสิวอย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องทำคือจะกลับดึกเหนื่อยล้าเพียงใด อย่าลืมล้างหน้าด้วย Cleanser ให้หน้าสะอาดอยู่เสมอ
 3. ชอบกินเผ็ด ชอบกินรสจัด ชอบกินของมัน บอกเลยว่าคนที่ชอบมีนิสัยการกินเหล่านี้จะทำให้เกิดสิวได้อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะอาหารเหล่านี้ก็ไปกระตุ้นให้เกิดสิวได้อย่างดี เชียวล่ะ รู้แล้วก็ให้ลดอาหารเหล่านี้ซะ
  

4. การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ปกติคนที่ดื่มน้ำน้อย หรือร่างกายขาดน้ำ ก็มีโอกาสที่จะเป็นสิวได้เหมือนกันเนื่องจากสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย ไม่โดนขับออกมา มันก็จะทำให้แสดงผลทางใบหน้า และผิวหนัง  สุดท้ายจะเป็นสิวนั่นเอง

5. ที่นอนไม่สะอาด ปกติปัญหานี้จะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงเป็นคนที่ชอบทำความสะอาดที่นอนอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ชายหรือคนที่ขี้เกียจทำความสะอาดที่นอน หมอน มุ้ง แน่นอน เมื่อผิวหน้าสัมผัสเข้ากับสิ่งสกปรก ก็จะทำให้เกิดสิวบนใบหน้า ได้เช่นกัน ฉะนั้นควรจะทำความสะอาดที่นอน อาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย

        
6. การใช้พัฟ ในการเติมแป้งระหว่างวันเมื่อพัฟไม่สะอาดเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุของสิวเหมือนกัน ฉะนั้นก็ควรจะเปลี่ยนพัฟบ่อย ๆ หากเราเห็นแล้วว่ามันสกปรก

7. กดสิว บีบสิว ปกติคนที่มีสิว จะห้ามใจในการกดสิวไม่ได้อยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ายิ่งกด ยิ่งบีบสิว มันจะทำให้เกิดการอักเสบบนใบหน้า และทำให้เกิดการรุกรามของสิว ได้ ฉะนั้นทางที่ดี ควรจะทำความสะอาดใบหน้าอย่างทะนุถนอม ผ้าเช็ดหน้าก็สะอาด ซับหน้าด้วยความนุ่มนอนดีกว่า 


  

8. นอนให้พอ นอนให้เร็ว อย่าเกิน 5 ทุ่มควรจะนอนได้แล้ว และนอนให้ครบ 8 ชม. ได้จะยิ่งดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผิวหน้าฟื้นฟูได้ดี

9. ต้องรู้ว่าผิวหน้าตัวเองเป็นแบบไหน การที่เรารู้ว่าผิวหน้าเรามีสภาพแบบไหน จะทำให้เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าได้ดี ขึ้น เพราะถ้าท่านหน้าแห้ง แต่ไปใช้เครื่องสำอางค์ที่ลดความมัน มันยิ่งจะทำให้หน้าแห้ง และจะเกิดสิวตามมาได้ ฉะนั้นควรสังเกตุว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหน

10. เมื่อเป็นสิวก็ให้พักหน้าบ้าง คือลดการใช้เครื่องสำอางค์ที่กระตุ้นให้สิวขึ้น เนื่องจากเครื่องสำอางค์ที่มีไขมันที่เพิ่มความมันให้กับใบหน้าบางตัวนั้น อาจจะยิ่งไปกระตุ้นให้เกิดสิวได้นะ
11. อย่าใช้มือสกปรกไปจับหน้า ทุกวันเราต้องออกนอกบ้านและสัมผัสกับสิ่งสกปรกจำนวนมาก เมื่อเราจะสัมผัสกับใบหน้าควรจะทำความสะอาดมือ ทุกครั้งไม่งั้นจะไปเพิ่มแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้อย่างง่าย เลยนะ
12. รักษาความสะอาดของร่างกาย ใบหน้า เส้นผม อย่าปล่อยให้ใบหน้าสกปรกจนมีไขมันอุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ห้ามทำการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นในทันที เพราะจะทำให้รูขุมขนปิดตัวลงโดยที่สิ่งสกปรกยังคงอุดตันอยู่ที่รูขุมขน ดังนั้นควรที่จะใช้ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกก่อน แล้วจึงล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด 

13. อย่าล้างหน้าบ่อยจนเกินไป การล้างหน้าจนแห้ง รูขุมขนจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวหนังมาก จนอาจทำให้ยิ่งเกิดการอุดตันของรู้ขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวมากยิ่งขึ้น

14. อย่าแต่งหน้าเกินวันละ 10 ชั่วโมง ต่อวัน เพราะยิ่งพอกเครื่องสำอางเอาไว้บนหน้านานเท่าไหร่ รูขุมขนก็จะถูกอุดตันมากเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องสิวตามมา

15. ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ควรระวังอย่าทานอาหารทะเลติดต่อกันทุกวัน เป็นที่ทราบกันดีว่าการทานอาหารทะเลจำนวนมากจะกระตุ้นให้เกิดสิว แต่ถ้าหากกินในปริมาณปกติเพียงเล็กน้อย ร่างกายก็จะยังสามารถขับออกได้ทัน

16. พยายามขับถ่ายทุกวัน การปลดถ่ายหนักช่วยขับกากของเสียออกจากร่างกาย สำหรับคนที่มีปัญหาท้องผูกทำให้ไม่ค่อยสามารถขับถ่ายได้นั้น ให้ลองเปลี่ยนมาทานอาหารประเภทผักและผลไม้ ที่มีใยอาหารมากๆ ซึ่งจะมีผลช่วยให้ร่างกายมีการขับถ่ายที่ดีขึ้น

17. กำจัดความเครียด คนที่เป็นสิวจะมีความกังวล และเครียดว่าเมื่อไหร่สิวจะหาย ฉะนั้นเมื่อมีความเครียดมากเท่าไหร่ สิวจะยิ่งขึ้นนะ

ควรทำใจให้สบาย ให้คิดบวกเข้าไว้


ผลิตภัณฑ์รักษาสิว


ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการรักษาสิว อย่างที่บอกในตลาดมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวจำนวนมาก จุดประสงค์ของการใช้แต่ละผลิตภัณฑ์แต่ละตัวก็ต่างกันไป บางอย่างใช้ เพื่อให้สิวที่พึ่งเป็นยุบลง  บางผลิตภัณฑ์ใช้เพื่อรักษารอยสิว รอยแดงจากสิว  บางผลิตภัณฑ์ก็ใช้เพื่อดูแลรอยหลุมที่เกิดจากสิว รวมทั้งบางตัวก็ใช้เพื่อรักษารอยด่างดำจากสิว เป็นต้น ฉะนั้นเมื่อเป็นสิวเราต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับปัญหาของสิวนั้น ๆ  และอีกอย่างต้องดูด้วยว่าเหมาะกับสภาพผิวหน้าของเราหรือไม่  ทีนี้มาดูว่าผลิตภัณฑ์รักษาสิวในท้องตลาดมีกี่ประเภท

1. คลีนเซอร์สำหรับคนที่เป็นสิว Cleanser สำหรับคนที่เป็นสิวก็ควรจะล้างหน้าให้สะอาดด้วย Cleanser ซึ่งอาจจะเป็น Cleanser ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า และไม่มีสารตกค้างบนใบหน้า ที่สำคัญต้องทำความสะอาดได้ดี ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ ก็คือ สบู่น้ำนมข้าว Skin Pearl หรือ สบู่น้ำผึ้งมะละกอ Skin Pearl

 2. ครีมกันแดดสำหรับคนที่เป็นสิว ครีมกันแดดสำหรับคนที่เป็นสิว ที่มีคุณภาพไม่เหนียว หรือก่อให้เกิดความมันบนใบหน้าระหว่างวัน 

3. ครีมบำรุงสำหรับคนที่เป็นสิว เป็นครีมบำรุงผิว ที่ช่วยทำให้ผิวกลับมามีความแข็งแรง ซึ่งต้องควรมีความสามารถในการควบคุมสิว และลดการอักเสบของสิว  ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำคือ Skin Pearl ชุดบล็อกสิว
ยารักษาสิว และรอยด่างดำจากสิว
หากท่านใช้ผลิตภัณฑ์  Skin Pearl ชุดบล็อกสิวแล้ว ท่านยังสามารถใช้ยารักษาสิวควบคู่ไปด้วย หากเห็นว่าสิวมันอักเสบเยอะ

1. ยาฆ่าเชื้อหัวสิว ถ้าหากเป็นสิวบ่อยๆ ควรทายาฆ่าเชื้อหัวสิว เช่น clindamycin, mupirocin, erythromycin +

2. การรักษาสิวหัวหนอง ใช้ยาแต้มหัวสิว Benzec ทาก่อนล้างหน้า หรือสำหรับคนที่มีอาการหน้าแดงเมื่อทา ให้เปลี่ยนไปใช้แต้มเฉพาะหัวสิว จะช่วยทำให้หัวหนองสุกเร็วขึ้น

3. การรักษาสิวอุดตัน การใช้ยาแต้มหัวสิว แนะนำให้ใช้ Effaclar K และ Effaclar K จะค่อยๆเห็นผลอย่างช้าๆ ช่วยให้หัวสิวอุดตันหลุดออกมา หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิว ที่มีส่วนประกอบของกลุ่ม เบนซอยล์เพอร์ออกไซต์ (BP) หากเพิ่งเริ่มใช้ควรที่จะเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่มีค่าเปอร์เซ็นต์น้อยๆ, กรดไซลิไซลิก (BHA) และกลุ่มคลินดามันซิน 

ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปแบบของโลชั่น ครีมแต้ม เป็นต้น หรือครีมทาสิวอุดตัน ในกลุ่ม Tretionoin ที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีความเข้มข้นต่างกัน ตั้งแต่ 0.025-0.1% โดยมีลักษณะเป็นเจล หรือน้ำ ยิ่งความเข้มข้นยิ่งสูงก็ยิ่งละลายสิวอุดตันได้ดี แต่จะมีผลค้างเคียงทำให้ใบหน้าเกิดความระคายเคืองมากขึ้นตามไปด้วยและไม่ควรใช้ Cleansing Oil ควรเปลี่ยนไปใช้ Cleansing Water แทน 

การใช้ Cleansing Oil จะยิ่งทำให้สิวยิ่งมีการอุดตันมากยิ่งขึ้น หรือ ยารับประทาน กลุ่ม Retinoids อาทิ เช่น Roaccutane, Isotretionoin, โดยมีขนาดตั้งแต่ 10-20 mg. ใช้ตามลักษณะความรุนแรงของอาการ ประโยชน์คือช่วยลดปัญหาผิวมัน โดยการลดการทำงานของต่อมไขมันในร่างกาย ทำให้หน้าแห้งและมีความมันน้อยลง

4. ลดรอยดำจากสิว ยาแต้มสำหรับลดรอยดำจากสิว แนะนำให้ใช้ Concealer Dr.jart ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับ Concealer หน้าไปพร้อมกับรักษาสิว ไม่อุดตันรูขุมขน และปกปิดริ้วรอยจากสิว

การรักษาสิวนั้นเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ แต่ถ้าเลือกได้เราควรจะป้องกันการเกิดสิวจะดีกว่า แต่สำหรับบางคนที่มีสภาพผิวหน้าที่เกิดสิวง่าย ก็เป็นกำลังใจให้ ลองปฏิบัติตามวิธีการรักษาสิว ข้างต้นรวมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว Skin Pearl ชุดบล็อกสิว ด้วยแล้วเพียงแค่เดือนเดียวท่านก็จะมีสิวลดลง บางคนอาจจะหายขาดจากสิวไปเลย นะ

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Promotion ดี ๆ จาก Skin Pearl


Skin Pearl มีโปรโมชั่นดี ๆ มามอบให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะซึ่งมีโปรต่าง ๆ ดังนี้
1. Skin Pearl เซ็ตบล็อกสิว + มาร์กหน้าเด้ง ปกติ ราคา 1580 บาท ลดเหลือเพียง 1500 บาทเท่านั้น
2. Skin Pearl เซ็ตหน้าใส + มาร์กหน้าเด้ง  ปกติ ราคา 1580 บาท ลดเหลือเพียง 1500 บาทเท่านั้น
3. Skin Pearl เซ็ตหน้าใส + Skin Pearl spot  ปกติ ราคา 1580 บาท ลดเหลือเพียง 1500 บาทเท่านั้น
3. Skin Pearl เซ็ตบล็อกสิว + Skin Pearl spot  ปกติ ราคา 1580 บาท ลดเหลือเพียง 1500 บาทเท่านั้น